หลักการกรองอากาศและความรู้เกี่ยวกับฟิลเตอร์กรองอากาศ
ทฤษฎีการจับฝุ่นของแผ่นกรองอากาศ
- หลักทางกล ( Mechanical Theory)
· Straining กรองสิ่งปนเปื้อนที่มีขนาดใหญ่กว่าช่องว่างระหว่างเส้นใย ใช้ได้ดีเมื่อสิ่งปนเปื้อนมีขนาดใหญ่กว่า 10 ไมครอน เช่น แผ่นกรองอลูมิเนียม, แผ่นกรองใยตาข่าย
· Impingement กรองสิ่งปนเปื้อนโดยใช้หลักการความเฉื่อยและแรงโน้มถ่วงของโลก ใช้ได้ดีเมื่อสิ่งปนเปื้อนมีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอนและไหลผ่านแผ่นกรองด้วยความเร็ว 1.5-3.0 m/s เช่นแผ่นกรองชนิด Pre Filter ทั่วไป
· Interception กรองสิ่งปนเปื้อนโดยใช้หลักการคล้าย Impingement แต่เนื่องจากขนาดของสิ่งปนเปื้อนที่เล็กกว่า (0.3-3 ไมครอน) จึงทำให้สามารถเคลื่อนที่หลบเส้นใยได้บ้าง สิ่งปนเปื้อนจะมีโอกาสสัมผัสกับเส้นใยแทนการพุ่งชน โดยจะดูดติดกับแผ่นกรองด้วยแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุล (Vander Waals Force) ซึ่งจะมีค่าน้อยมาก ดังนั้นความเร็วลมจะต้องต่ำ~0.1-1 m/s เช่น Medium Filter ทั่วไป
· Diffusion สิ่งปนเปื้อนที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนจะมีการเคลื่อนที่คล้ายกับอากาศคือไม่มีทิศทางแน่นอน (Brownian Movement ) หากออกแบบแผ่นกรองอากาศให้มีเส้นใยที่เล็กและมีความหนาแน่นมาก โอกาสที่สิ่งปนเปื้อนที่ไหลเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านจะเข้าสัมผัสและดูดติดด้วยแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุล ตามทฤษฎี Interception จะง่ายขึ้น โดยความเร็วลมจะต้องต่ำ~0.1-0.5 m/s เช่น HEPA, ULPA - หลักการทางไฟฟ้า (Electrical Theory)
เป็นหลักการที่ใช้จับสิ่งปนเปื้อนที่มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยใช้สนามแม่เหล็กมาช่วยในการจับประจุ ทำให้เครื่องกรองเป็นสนามแม่เหล็กที่มีทั้งประจุ + และประจุ - โดยเครื่องกรองจะทำหน้าที่จับสิ่งปนเปื้อนที่มีประจุตรงข้ามกัน ทั่วไปไม่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมเนื่องจากยังไม่ reliable
การแบ่งประเภทฟิลเตอร์ตามมาตรฐาน EN779
การแบ่งระดับฟิลเตอร์กรองอากาศ
· Pre-Filter หรือ ฟิลเตอร์กรองอากาศขั้นต้น จัดตามมาตรฐานประสิทธิภาพในการกรอง EN779 ได้แก่ EU1-5 เช่น Roll filter เป็นต้น
· Medium Filter หรือฟิลเตอร์กรองอากาศขั้นกลาง จัดตามมาตรฐานประสิทธิภาพในการกรอง EN779 ได้แก่ EU6-9 เช่น Bag filter, Medium filter deep pleat (Galvanized steel cell side), Medium filter mini-pleat ( V-type ) เป็นต้น
· Very High Efficiency หรือ ฟิลเตอร์กรองอากาศขั้นสูง จัดตามมาตรฐานประสิทธิภาพในการกรอง EN1822 ได้แก่ H10-U17 เช่น HEPA และ ULPA
